เหรียญ LUNA (Terra)  ทำไมถึงร่วง 99% เกิดอะไรขึ้นบ้าง ? วิกฤติ LUNA สั่นสะเทือนวงการ คริปโตเคอเรนซี่ ทำนักลงทุนบางคนสูญเงินเก็บทั้งชีวิต หลายคนก็คงสงสัยเกี่ยวกับเหรียญที่เป็นกระแสในขณะนี้ ‘LUNA’ ในเครือ Terra Chain หรือ สกุลเงินดิจิทัล UST ถึงราคาลงต่ำ -99% จนแทบจะไม่มีค่า และถูกถอนออกจากหลายแอปฯเทรดไปเรียบร้อย โดยล่าสุดขณะนี้ LUNA และ UST ได้ถูก Binance และ Exchange อื่นๆ ถอดเหรียญออกจากกระดานเทรดแล้ว

ราคาเหรียญ Luna กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังเหรียญ UST หลุด PEG ลดลงต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ส่งผลทำให้นักเทรดแห่กันเทขาย Luna หนีตาย ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาดลดลงจากกว่า 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บรรดานักลงทุนสูญเงินอย่างไม่ทันตั้งตัว

เหรียญ LUNA มีไอเดียในการสร้างเหรียญ Stablecoin ที่แตกต่างจากเหรียญอื่นๆ เป็นเหรียญที่เชื่อมโยงกันกับ UST และเคยติด 10 อันดับเหรียญืที่มีมูลค่าการเทรดของโลก วันนี้เราจะมาหาคำตอบว่า เหรียญ LUNA coin คืออะไร? วิกฤติเหรียญ LUNA และ UST เกิดอะไรขึ้น ? และ UST กับ LUNA เชื่อมโยงกันอย่างไร ทำงานอย่างไร

วิกฤติเหรียญ LUNA และ UST เกิดอะไรขึ้น ?

เหรียญ LUNA coin คืออะไร?

LUNA คือ Governance Token ของ DeFi Protocol ที่กำลังถูกจับตาเป็นอย่างมากในเวลานี้ก็คือ Terra ซึ่งเป็นบริษัทบล็อกเชนสัญชาติเกาหลี ที่มีโปรดักต์มากมายไม่ว่าจะเป็น Mirror และ Anchor โดย Ecosystem ที่ครบสมบูรณ์แบบในโลก DeFi ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Stablecoins , Synthetic Asset และ Lending ทำให้โทเคน LUNA เป็นที่น่าจับตาอย่างมาก

Terra ยังเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหรียญ Stablecoins อย่าง THT ซึ่งอ้างอิงกับสกุลเงินบาท ซึ่งนอกจากเหรียญ THT แล้ว Terra ยังสร้าง Stablecoins ที่อ้างอิงกับ Fiat Currency อื่นๆไม่ว่าจะเป็นเงินวอนเกาหลีรวมถึงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เรียกได้ว่านอกเหนือจาก Maker แล้วก็มี Terra ที่น่าจะติดอันดับต้นๆของ DeFi Protocol สาย Stablecoins

ทั้งนี้การสร้าง Stablecoins ในแพลตฟอร์มของ Terra จำเป็นต้องใช้เหรียญ Luna ในการเป็นสินทรัพย์อ้างอิง เท่ากับว่าหากแพลตฟอร์มของ Terra มีการสร้าง Stablecoins มากขึ้นก็จะส่งผลให้เกิดความต้องการเหรียญ Luna มากขึ้นอีกด้วย

เรียกได้ว่า Luna คือ เหรียญ DeFi ที่ถูกนำไปใช้กับแพลตฟอร์มที่หลากหลายทั้ง Stablecoins , Payment , Lending และ Synthetic ประกอบกับ Terra คือบริษัทบล็อกเชนยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ Luna ถูกจับตาว่าเป็นหนึ่งในเหรียญ DeFi ที่มีพื้นฐานดีเหรียญหนึ่ง

วิกฤติเหรียญ LUNA และ UST เกิดอะไรขึ้น ? เชื่อมโยงกันอย่างไร ทำงานอย่างไร

หากความต้องการ UST มีมากขึ้น และ LUNA จะถูกเบิร์นทิ้งไป หากความต้องการ UST น้อยลง LUNA ก็จะกลับมา ยกตัวอย่างง่ายๆคือ การที่จะมี UST 1 เหรียญ ก็จะต้องมีการเผา LUNA ทิ้งไป 1 เหรียญเช่นกัน และเมื่อความต้องการในตลาดมากขึ้นกว่าจำนวนเหรียญ จะทำให้มูลค่าของเหรียญมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นเยอะตามไปด้วย ทำให้เราเห็นว่าราคาของเหรียญ LUNA ขึ้นไปเยอะมากเพราะสกุลเงิน USDT มีการใช้งานมาก และมี LFG หรือ Luna Foundation Guard ที่มีการถือบิทคอยน์ไว้เป็นเงินสำรองของระบบนี้

เนื่องจากช่วงเวลาที่ตลาดคริปโทฯอื่นๆราคาลง มีแพลตฟอร์มการออมเหรียญที่ชื่อว่า Anchor Protocol ของ Terra Chain ที่ให้ดอกเบี้ยถึง 20% คนจึงนำเงินในช่วงที่ตลาดซบเซาไปแปลงเป็น USDT เพื่อที่จะใช้ Anchor Protocol ได้ ซึ่งในขณะนั้นแพลตฟอร์มการออมเงินเป็นอะไรที่ปลอดภัยที่สุด

ทฤษภีวิเคราะห์เรื่องเหรียญ LUNA จากทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @OnChainWizard

พูดถึงว่า ได้มีคนทำการช็อตบิทคอยน์ คาดว่าจะเป็นวาฬหรือกองทุนก็เป็นได้ 

การโจมตีครั้งนี้ เกิดจากจุดอ่อนของระบบ Luna Foundation Guard หรือสกุลเงิน LFG ที่มีไว้ป้องกันแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และจึงเกิดการช็อตบิทคอยน์เพื่อโจมตีจุดอ่อนนี้

LFG ก็ได้ทำการเข้าซื้อบิตคอยน์ เพื่อเป็นทุนสำรองไว้ใช้สำหรับพยุงราคา UST โดยได้เข้าซื้อทั้งสิ้น เป็นมูลค่าราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากนั้นไม่นาน Terra ก็ได้มีการเปิดพูลใหม่ชื่อว่า 4pool เป็นพูลที่ประกอบไปด้วยเหรียญ Stablecoin ทั้ง UST, FRAX, USDC และ USDT เพื่อหวังจะช่วยให้การใช้งานของเหรียญ UST ของ Terra มีมากขึ้น

ทั้ง 2 ส่วนนี้เองที่ Onchain Wizard ได้มองว่าเป็นอีกช่องโหว่ด้านสภาพคล่องที่ทำให้ Terra ถูกโจมตี

วิธีการคือ ซื้อ UST มาเป็นจำนวนมากและเมื่อแผนการช็อตเริ่ม ก็ดั้มลดราคาลงใส่ตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ UST ไม่สามารถเติบโตได้ต่อไป และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนสูญเสียไป และทำให้คนกังวลและเทขายเพื่อจะให้ขาดทุนน้อยที่สุด

กลไกเหล่านี้ทำให้นี่คือช่องโหว่ของ LUNA เพราะหากสกุลเงิน UST และ LUNA ไม่สามารถสลับกันเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ LFG จะต้องทำการขายบิทคอยน์ เพื่อนำเงินมาซื้อ UST กลับ ทำให้สกุลเงินทั้งหมดถูกโจมตีอย่างสมบูรณ์ ทั้งบิทคอยน์ LUNA และ UST ราคาร่วง

โดยก่อนหน้านี้ผู้โจมตีได้ยืมบิตคอยน์จำนวน 100,000 เหรียญ เพื่อเก็งกำไรขาลง เรียกว่า การเปิด “Short” ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิตคอยน์ นั่นคือส่วนผสมที่ลงตัว โจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สื่อในเกาหลีรายงานว่า โดควอน ผู้ก่อตั้งเหรียญ LUNA ได้รีบขอความคุ้มครองจากตำรวจอย่างเร่งด่วน หลังมีนักลงทุนพอร์ตแตกหลายฝ่ายข่มขู่เข้ามา

วิกฤติเหรียญ LUNA และ UST เกิดอะไรขึ้น ?

ทวิตเตอร์ LUNA ได้แจ้งถึงการยุติบล็อกเชนและรอการฟื้นฟู อย่างไรคนที่ถือสกุลเงิน LUNA ยังคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปว่าโดควอน จะกู้ Terra กลับมาได้หรือไม่ หลากหลายนักลงทุนก็ถอดใจไปกับเหรียญตัวนี้เรียบร้อยแล้ว