เชื่อว่านักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก่าคงเคยได้ยินนักวิเคราะห์ หรือผู้เชี่ยวชาญ ด้านการลงทุนพูดถึง อัตราส่วนทางการเงิน ที่สำคัญสำหรับการลงทุนในหุ้น กันอยู่บ่อยๆ มาทำความรู้จัก อัตราส่วนทางการเงิน P/E, P/BV, ROA, ROE และ D/E ให้ดียิ่งขึ้นกัน

P/E (Price/Earning per Share)

ระยะเวลาการคืนทุน เป็นอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น อธิบายง่ายๆ คือ ค่า P/E สามารถประมาณการจุดคุ้มทุน ให้กับผู้ลงทุนได้

เช่น หุ้น A ราคา 10 บาท มีกำไรต่อหุ้น 1 บาท ดังนั้น P/E เท่ากับ 10 เท่า หรือเราจะได้ทุน 10 บาทคืนเมื่อ ถือหุ้น A ครบ 10 ปี

P/BV (Price/Book Value)

เป็นอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น  มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น ตัวเลขมาตรฐานที่มักจะใช้เป็นฐานก็คือ 1 เท่า หากเราซื้อหุ้นที่ P/BV ต่ำกว่า 1 นั้นแปลว่าเราซื้อต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี โดยปกติแล้ว P/BV ยิ่งต่ำกว่า 1 ยิ่งดี

ROA (Return On Assets) 

เป็นค่าที่บ่งบอกถึง ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ยิ่งมีค่ามาก ยิ่งแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไร ได้มาก แต่ไม่ควรต่ำกว่า 5%

ห้องเรียนนักลงทุน

ROE (Return on Equity) 

อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น กำไรสุทธิหารด้วยส่วนผู้ถือหุ้น ซึ่ง Buffet ให้ความสำคัญกับ ROE เป็นอย่างมาก โดยปกติค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 12-15% และต้องมีความต่อเนื่องหลายๆปี

D/E (Debt to Equity)

หนี้สินต่อทุน ซึ่งหากสูงเกินไปจะมีความเสี่ยงต่อการบริหารสภาพคล่อง ฉะนั้น D/E ที่เหมาะสม ต่ำกว่า 1 ยิ่งดี

Dividend Yield

ป็นการวัด อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ หากหุ้นตัวใดมีค่านี้สูง แสดงว่ามีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง