จาก เหรียญดิจิตอล จำนวนมากกว่า 10,000 สกุลเงินดิจิทัล ที่มีอยู่ในตลาดโลก มีหลายสกุลเงินที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมในหมู่นักเทรด เหรียญคริปโตยอดนิยม ก่อนเริ่มเล่น คริปโต ฯ มาไว้ในที่เดียว

เหรียญคริปโตยอดนิยม ปี 2021

บิตคอยน์ (Bitcoin)

ใช้อักษรย่อว่า BTC เกิดปี 2009 โดยผู้สร้างชื่อ ‘ซาโตชิ นากาโมโต’ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเป็นคนหรือกลุ่มบุคคลใด แต่คาดว่าเป็นนามแฝงไม่ใช่ชื่อที่มีอยู่จริง

โดยบิตคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกและเป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ในปัจจุบันบิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก และมูลค่าของบิตคอยน์ที่หมุนเวียนในระบบกว่า 17 ล้านเหรียญที่ถูกขุดออกมาแล้ว (จากทั้งหมด 21 ล้าน) มีมูลค่าเกินครึ่งของมูลค่าตลาดคริปโทโลก

อีเทอเรียม (Ethereum)

ใช้อักษรย่อว่า ETH เกิดปี 2013 โดยผู้สร้างชื่อ วีตาลิค บูเจริน โปรแกรมเมอร์ชาวรัสเซียนแคนาเดียน ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาบิตคอยน์ ความโดดเด่นของอีเทอเรียม คือเป็น Open Source ให้บุคคลอื่นเข้ามาร่วมพัฒนาระบบได้ จึงทำให้อีเทอเรียมทำงานได้หลากหลายกว่าบิตคอยน์

โดยอีเทอเรียมสามารถเปิดใช้ระบบ Smart Contract สร้างเงื่อนไขการสั่งจ่ายได้ อาทิ จ่ายค่าบัตรเครดิตหรือค่าหอพัก เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด จ่ายค่ารถเช่าเพื่อปลดล็อกรถ โดยไม่ต้องจ้างคนเพื่อเฝ้ารถ

นอกจากนั้น ยังนิยมใช้ในการระดมทุนแบบดิจิทัลที่เรียกว่า ‘ICO’ หรือ Initial Coin Offering รวมถึงยังมีการรวมตัวกันของบริษัทใหญ่และสตาร์ทอัพทั่วโลก เพื่อร่วมกันวิจัยพัฒนาอีเทอเรียมใต้ชื่อ EEA หรือ Enterprise Ethereum Alliance ปัจจุบันมีมูลค่าเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดคริปโทโลก

ริปเปิ้ล (Ripple)

ใช้อักษรย่อว่า XRP เกิดในปี 2018 โดยมีบริษัท ริปเปิ้ล แลปส์ (Ripple Labs) เป็นผู้สื่อสร้าง โดยแตกต่างจากเหรียญอื่นๆ ตรงที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางโอนย้าย (settlement) ระหว่าง ‘ธนาคาร’ และมีลักษณะเหรียญเป็นแบบรวมศูนย์ รวมถึงเป็นบล็อกเชนส่วนบุคคล (Private Blockchain) ทำให้ริปเปิ้ล แลปส์ สามารถควบคุมธุรกรรมทั้งหมดได้

โดย XRP ได้รับการยอมรับจากบริษัทระดับโลกหลายแห่ง อาทิ Google, SBI Group, Standard Chartered และ Seagate ปัจจุบันเป็น 1 ใน 5 เหรียญที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

ไบแนนซ์คอยน์ (Binance Coin)

ใช้อักษรย่อว่า BNB เกิดในปี 2017 โดยมี ‘ไบแนนซ์’ (Binance) ผู้ให้บริการเทรดเหรียญดิจิทัลระดับโลกเป็นผู้สร้าง โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ในระบบนิเวศของไบแนนซ์ ทั้งใช้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมหรือใช้แลกเปลี่ยน ‘โทเค็น’ ที่ถูกลิสต์บนกระดานของไบแนนซ์

นอกจากนั้น ยังสามารถใช้ลดค่าธรรมเนียมในการเทรดเหรียญได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้สร้างอย่างไบแนนซ์กำหนดให้มีการเผาเหรียญออกจากระบบ เมื่อมีการใช้เหรียญ ทำให้มูลค่าเหรียญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากปริมาณความต้องการที่มากกว่าปริมาณเหรียญที่มีอยู่

เทเทอร์ (Tether)

ใช้อักษรย่อว่า USDT เกิดในปี 2017 โดยมีบริษัท เทเทอร์ ลิมิเต็ด (Tether Limited) เป็นผู้สร้าง แตกต่างจากเหรียญอื่นๆ ตรงที่มุ่งเน้นจะสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อคริปโทฯ กับเงินตราปกติ โดยกำหนดให้ผูกกับ ‘ดอลลาร์สหรัฐ’ ให้ 1 USDT มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ฯ

ทำให้กลายเป็นเหรียญประเภทที่ถูกเรียกว่า Stablecoins หรือเหรียญที่มีเสถียรภาพด้านราคา
เหมาะเป็นสื่อกลางเมื่อต้องการโอนเงินข้ามประเทศหรือพักเทรด

ด็อกคอยน์ (Dogecoin)

ใช้อักษรย่อว่า DOGE เกิดในปี 2013 โดยผู้สร้างชื่อ ชิบะโตชิ นากาโมโต แต่ชื่อดังกล่าวเป็นชื่อที่ผู้สร้างอย่าง แจ็คสัน พาล์มเมอร์ และบิลลี มาร์คัส สร้างขึ้นเพื่อล้อเลียนชื่อผู้สร้างบิตคอยน์อย่าง ‘ซาโตชิ นากาโมโต’

โดยแต่เดิมแม้จะเป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อเสียดสีคริปโทฯ แต่หน้าเหรียญสุนัขพันธุ์ ‘ ชิบะอินุ ’ กลับทำให้เหรียญเข้าถึงและจดจำได้ง่าย และถูก ‘ อีลอน มัสก์ ’ นักธุรกิจเจ้าของเทสลานำไปพูดถึงหลายครั้งบนทวิตเตอร์

Bitcoin Cashชื่อย่อการซื้อขาย BCH

เป็นเหรียญที่แยกตัวออกมาจาก บิตคอยน์ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ด้วยการเพิ่มขนาดบล็อกเป็น 8MB ทำให้ทำธุรกรรมได้มากขึ้น เร็วขึ้น จากเดิมที่ “บิตคอยน์” ยังมีความล่าช้าในการทำธุรกรรม เพราะขนาดบล็อกจำกัดแค่ 1MB

Bitcoin SVชื่อย่อการซื้อขาย BSV

เป็นสกุลเงินที่แยกออกมาจาก Bitcoin Cash เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งในวงการเรียกว่า การ Hard Fork

Litecoinชื่อย่อการซื้อขาย LTC

จะมีความคล้ายกับ บิตคอยน์ เพราะสร้างขึ้นตามโปรโตคอลบิตคอยน์ และสามารถขุด หรือ mining ได้เช่นกัน แต่จะใช้อัลกอริทึม Scrypt ส่วนของบิตคอยน์ใช้ SHA-256

Binance Coin ชื่อย่อการซื้อขาย BNB

เป็นเหรียญที่สร้างโดยกระดานเทรดระดับโลกอย่าง Binance เพื่อใช้ในระบบนิเวศของ Binance เช่น ใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมในการเทรด หรือการซื้อเหรียญ IEO เป็นต้น

Stellar ชื่อย่อการซื้อขาย “XLM”

XLM เป็นคริปโตในเครือข่ายบล็อกเชนของ Stellar ก่อตั้งโดย Jed McCaleb ในปี 2557 ซึ่ง Jed McCaleb เป็นผู้ร่วมก่อตั้งริปเปิลและยังเป็นผู้ก่อตั้งเว็บเทรดคริปโต MtGox